โพลีเพล็กซ์ตระหนักถึงความสําคัญของการกํากับดูแลกิจการที่ดีและมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะดําเนินธุรกิจตามแนวหลักการการกํากับดูแลกิจการที่ดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกําหนด บริษัทมีความเชื่อมั่นในการดําเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส (Transparency) ความรับผิดชอบ (Accountability) และจรรยาบรรณ (Ethical Conduct) บริษัทให้ความสําคัญในการนําระบบการควบคุมและการตรวจสอบภายในที่เข้มงวดมาใช้ นอกจากนี้ยังได้กําหนดนโยบาย การบริหารความเสี่ยงต่างๆโดยให้ความสําคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและมีจริยธรรมทางธุรกิจกับคู่ค้า ผู้ถือหุ้นและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทเล็งเห็นความสําคัญของสิทธิที่เท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้นทุกคน และถือว่าผู้ถือหุ้นทุกคน เป็นเจ้าของบริษัทไม่ว่า จะมีสัดส่วนการถือครองหุ้นเท่าใดก็ตาม
บริษัทมีนโยบายในการรายงานความคืบหน้าของการดําเนินงานต่อผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าโดยการรายงานโดยตรง หรือผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือโดยการให้ข้อมูล ทางเว็บไซต์ของบริษัทหลังจากที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว
ผู้ถือหุ้นจะได้รับหนังสือเชิญประชุม รวมทั้งระเบียบวาระการประชุมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า 21 วัน ได้เปิด โอกาสและส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นให้มีส่วนร่วมในการประชุมแสดงความคิดเห็นและสอบถาม และความคิดเห็นจะถูกจดบันทึกไว้และติดตาม
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีสิทธิต่อไปนี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
โพลีเพล็กซ์ให้ความสําคัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ได้แก่
บริษัทจะจัดการประชุมโดยปฏิบัติต่อผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอย่างเท่าเทียมกันและให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นับแต่การออกหนังสือเชิญประชุม การออกใบมอบฉันทะสําหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ การแจกเอกสารประกอบการประชุมไปจนถึงการแจ้งวาระการประชุมให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ มีการดูแลให้มั่นใจว่าสถานที่และกําหนดการจัดประชุมสะดวกและมีระยะเวลาในการประชุมเพียงพอสําหรับให้ผู้ถือหุ้นซักถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดําเนินธุรกิจของบริษัท
คณะกรรมการบริษัท มีหน้าที่ในการทบทวนแผนงาน วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และนโยบายหลัก โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานต่างๆ และมีการนําระบบ Key Result Areas (KRAs) มาใช้กับทุกหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และลําดับความสําคัญในองค์กร คณะกรรมการจะมีบทบาทสําคัญในการทบทวนผลการปฏิบัติงานตามจริงเปรียบเทียบกับงบประมาณ
บริษัทมีนโยบายในการให้ผู้บริหารทุกระดับมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการดําเนินงานทุกด้าน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท บุคลากรทุกคนมีหน้าที่ต้องหลีกเลี่ยงการทํารายการและหรือธุรกรรมอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางการเงินแก่บริษัทและผลประโยชน์ส่วนตัวในรูปของเงิน คณะกรรมการตรวจสอบได้รับมอบหมายให้ติดตามและสอบทานระบบการควบคุมและการตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพรวมทั้งให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และกลต.
โพลีเพล็กซ์ได้กําหนดจรรยาบรรณให้พนักงานทุกคน โดยเน้นการปฏิบัติตามหลักจริยธรรม ความซื่อสัตย์และความ รับผิดชอบ และส่งเสริมให้พนักงานมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียและหน่วยงานภายนอกทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมบรรษัทภิบาลที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัทยึดมั่นในมาตรฐานขั้นสูงสุดตามหลักจรรยาบรรณ ศีลธรรม และกฎหมายของการดําเนินธุรกิจ ในการรักษา มาตรฐานเหล่านี้ คณะกรรมการบริษัทได้กําหนดนโยบายการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสการทุจริตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งส่งเสริมให้พนักงานที่มีความกังวลเกี่ยวกับการกระทําที่ต้องสงสัยว่ามิชอบแสดงความกังวลได้โดยปราศจากความกลัวว่าจะถูกลงโทษหรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นโยบายนี้มุ่งเปิดช่องทางให้พนักงานที่พบเห็นการกระทําที่ผิดหลักจรรยาบรรณ (ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ก็ตาม) นําเรื่องสู่คณะกรรมการพิจารณาการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสการทุจริตซึ่งประกอบด้วยกรรมการ 4 คนซึ่งเป็นผู้บริหารหัวหน้าสายงานหลักขององค์กร และจะเป็นผู้รายงานเรื่องร้องเรียนและเบาะแสที่ได้รับต่อคณะกรรมการตรวจสอบ
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยกรรมการ 7 ท่าน โดยมีรายละเอียดดังนี้
สถานะ | กรรมการที่เป็นผู้บริหาร | กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร | กรรมการตรวจสอบ |
กรรมการผู้แทนผู้ถือหุ้น | 1 | 3 | - |
กรรมการอิสระ | - | - | 3 |
ประธานคณะกรรมการบริษัท เป็นกรรมการอิสระและเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนกรรมการผู้จัดการ ทําหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ บริหารรับผิดชอบดูแลการปฏิบัติงานและมีอํานาจตามที่กําหนด โดยการตัดสินใจสําคัญใน บางเรื่องจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ
ค่าตอบแทนคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบได้รับการเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติ ส่วนค่าตอบแทนกรรมการผู้จัดการจะกําหนด โดยคณะกรรมการบริษัทในการปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ค่าตอบแทนฝ่ายจัดการสามารถมีการทบทวนได้โดยผู้ถือหุ้นซึ่งอาจกําหนดนโยบายและแนวทางที่เหมาะสมเพื่อการนี้
คณะกรรมการมีการประชุมตามปกติอย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อทบทวนผลการปฏิบัติงาน ผลงานด้านการเงิน รายไตรมาส และเรื่องอื่นๆ
สำหรับปี 2566 - 2567 มีการประชุมคณะกรรมการบริษัททั้งหมด 6 ครั้ง กรรมการที่เข้าร่วมประชุมมีดังนี้
รายชื่อกรรมการ | ตําแหน่ง | จํานวนครั้งที่เข้าประชุม |
นายมนู เลียวไพโรจน์ | ประธานกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ | 6/6 |
นายชีราช อีรัช ปุณวาลา | กรรมการและกรรมการตรวจสอบ | 4/6 |
นายซันจีฟ ซาราฟ | กรรมการผู้จัดการและรองประธานกรรมการ | 4/6 |
นายรันจิต ซิงห์ | กรรมการ | 2/6 |
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ | กรรมการและกรรมการตรวจสอบ | 5/6 |
นายอมิต ปรากาซ | กรรมการผู้จัดการ | 6/6 |
นายอิยาด มาลาส* | กรรมการ | 1/1 |
นางซาคิ ซาราฟ# | กรรมการ | 5/5 |
*การเข้าประชุมหลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566
# การเข้าประชุมจนกระทั่งลาออกจากตำแหน่งกรรมการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566
คณะกรรมการได้นำเสนอและที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งประกอบด้วย กรรมการอิสระ 3 ท่าน กรรมการตรวจสอบมีคุณสมบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ถือหุ้นได้ กำหนดอำนาจและขอบเขตการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ การสอบทานระบบ การควบคุมภายใน รายงานทางการเงิน รายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ คณะกรรมการตรวจสอบมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี และเลือกคณะกรรมการใหม่ทุก 2 ปี สำหรับปี 2566 - 2567 มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด 4 ครั้ง กรรมการที่เข้าร่วมประชุมมีดังนี้
รายชื่อกรรมการ | ตําแหน่ง | จํานวนครั้งที่เข้าประชุม |
นายมนู เลียวไพโรจน์ | ประธานกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ | 4/4 |
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ | กรรมการและกรรมการตรวจสอบ | 3/4 |
นายซีราช อีรัช ปุณวาลา | กรรมการและกรรมการตรวจสอบ | 3/4 |
คณะกรรมการบริษัททําหน้าที่ควบคุมการดําเนินงานโดยการกําหนดงบประมาณและเป้าหมายการดําเนินงานประจําปี รวมทั้งมีการทบทวนสิ่งที่ได้ดําเนินการแล้วเป็นระยะๆ โดยมีคณะกรรมการตรวจสอบทําหน้าที่ดูแลการควบคุมและ การตรวจสอบภายใน และเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข
คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่รับผิดชอบต่องบการเงินของบริษัท ทั้งนี้จะมีการให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินเพื่อจัดพิมพ์ เป็นส่วนหนึ่งของรายงานประจําปี
บริษัทให้ความสําคัญกับการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุนโดยเข้าร่วมโครงการ บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (SET Opportunity Day) ทุกไตรมาส และการจัดประชุมนักวิเคราะห์ (Analysts Meetings) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและผลการดําเนินงานของบริษัทแก่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ ตลอดจนจัดให้มีการเยี่ยมชมโรงงานสําหรับผู้ถือหุ้น นักวิเคราะห์ และนักลงทุนที่สนใจในด้านนักลงทุนสัมพันธ์นั้น บริษัทได้พัฒนาส่วนของนักลงทุนสัมพันธ์ขึ้นมาในเว็บไซต์ของบริษัท นักลงทุน/นักวิเคราะห์ ยังสามารถลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวสําหรับการติดต่อทางอีเมล์ (E-mail ID) และรับข่าวสารจากนักลงทุนสัมพันธ์ (IR alert) ทุกครั้งที่มีข้อมูลข่าวสารล่าสุดทางเว็บไซต์ของบริษัทอีกทั้งติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ จากบริษัทได้ที่โทรศัพท์หมายเลข +662 6652706-8
บริษัทตระหนักถึงความจําเป็นในการกํากับดูแลการใช้ข้อมูลภายในของบริษัทโดยกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ส่วนตน กรรมการและผู้บริหารที่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในของบริษัทจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทําการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในช่วงระยะเวลาตามที่กําหนดก่อนที่บริษัทจะประกาศผลการดําเนินงาน
ดังนั้นแนวปฏิบัติจึงได้กําหนดและอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท และช่วงปิดการซื้อขายตั้งแต่วันแรกที่ซื้อขายหลัง สิ้นไตรมาสจนถึง 48 ชั่วโมงหลังจากการประกาศผลการดําเนินงาน มีผลบังคับใช้กับกรรมการ ผู้บริหารของ PTL และพนักงานทั่วโลกทั้งหมดของ PTL และบริษัทย่อยห้ามซื้อขายหุ้นของบริษัทโดยเด็ดขาดในช่วงระยะเวลาการปิดการซื้อขายนี้